ในการขับขี่รถยนต์เดินทางไปไหนมาบนท้องถนน โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร บางครั้งเรามองเห็นเส้นทางข้างหน้ามีจราจรติดขัด จนทำให้เราต้องใช้ทางด่วนอย่างกะทันหัน หรือบางครั้งตั้งใจจะใช้ทางด่วนแต่ดันลืมไปว่า มีเงินในกระเป๋าและในรถไม่พอจ่ายค่าทางด่วน ซึ่งหลายคนมารู้ตัวอีกทีก็จอดรถตรงด่านเก็บเงินไปเสียแล้ว จะให้เลี้ยวรถกลับไปใช้ถนนปกติก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งหากใครประสบปัญหานี้ ไม่ต้องตกใจไปนะครับ เรามาดูวิธีแก้ปัญหาทางออกนี้พร้อม ๆ กันเลย
ในกรณีที่คุณลืมพกเงินในกระเป๋า ลืมกระเป๋าสตางค์ หรือไม่มีเงินจ่ายค่าทางด่วน เมื่อคุณได้ขับรถยนต์มาจนถึงด่านเก็บค่าผ่านทางเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรณีทางเจ้าหน้าที่สามารถให้คุณผ่านด่านและขึ้นทางด่วนไปได้ แต่คุณจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตามตรงถึงเหตุผลที่ไม่มีเงินจ่ายค่าทางด่วนในครั้งนั้น โดยเจ้าหน้าที่จะขอจดข้อมูลไว้ ทั้งทะเบียนรถ สีรถ ยี่ห้อ และเวลาเข้าด่านนั้น ๆ หลังจากนั้นค่อยเอาเงินมาจ่ายทีหลังก็ได้ ซึ่งคุณสามารถจ่ายที่ด่านเดิมภายใน 7 วันทำการ หรือสามารถไปจ่ายที่สำนักงานใหญ่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ภายใน 30 วันทำการได้เช่นกัน
แล้วถ้าหากคุณไม่มาจ่ายเงินค่าทางด่วนภายในเวลาที่กำหนด คุณจะมีความผิดทางกฎหมาย โดยทางด่วนจะนำบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด และรายงานให้กับกรมการขนส่งทางบกเวลาที่คุณมาเสียภาษีรถประจำปีจากค่าทางด่วนไม่กี่สิบบาท ค่าปรับจะถูกเพิ่มขึ้นทันที
โดยกำหนดโทษปรับตามกฎหมาย หากคุณชักดาบไม่ยอมมาจ่ายค่าทางด่วน ดังนี้
1.หากติดค้างชำระค่าผ่านทางด่วน ขั้นที่ 1 หรือ 2 ที่ดูแลโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เรียกว่า "ทางพิเศษ" เช่น ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ฯลฯ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทษปรับ 2,000 บาท
2.ทางด่วนที่เป็นทางหลวงสัมปทานอย่าง "โทลล์เวย์" จะดูแลโดยบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) มีโทษตาม พ.ร.บ.ทางหลวงสัมปทาน เช่นเดียวกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือ "มอเตอร์เวย์" ที่ดูแลโดยกรมทางหลวง มีความผิดตามมาตรา 33 ของ พ.ร.บ.ทางหลวงสัมปทาน พ.ศ.2542 โทษปรับไม่เกิน 10 เท่าของค่าผ่านทาง
รู้อย่างนี้แล้วก็ไม่ต้องกังวลใจหากคุณเผลอขึ้นทางด่วนโดยไม่ได้เตรียมเงินจ่ายค่าผ่านทางอีกต่อไป เพราะคุณสามารถผ่านไปได้ และสามารถกลับมาชำระเงินภายหลังได้ แต่ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้ทำแบบนี้บ่อยนะครับ บางครั้งเราอาจจะหลงลืมไปได้บ้าง แต่หากเกิดเหตุการณ์ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ยิ่งเป็นการทำให้จราจรติดขัดเพิ่มขึ้นด้วย และที่สำคัญคุณต้องไม่ลืมที่จะกลับมาชำระค่าผ่านทางให้ครบถ้วน มิเช่นนั้น จากค่าทางด่วนแค่ไม่กี่บาท คุณอาจต้องเสียค่าปรับที่มากขึ้นหลายเท่าอย่างแน่นอน