สำหรับเจ้าของรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ประเภทไหน รุ่นใดก็ตามเมื่อครบรอบ 1 ปีก็จะต้องไปทำการเสียภาษีสำหรับปีต่อไป เพื่อจะได้ใช้รถยนต์อย่างถูกต้องตามข้อกฏหมายกำหนดไว้ หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่ารถยนต์ของตนเองหรือรถยนต์แต่ละประเภทนั้น คำนวณค่าภาษีรถยนต์กันอย่างไร วัดกันที่อะไรและแยกประเภทของรถยนต์ในการเสียภาษีกันแบบไหน วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการคิดภาษีรถยนต์แต่ละประเภทมาบอกกัน
1. อัตราการคำนวณรถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่งแบบบุคคลธรรมดา
หมายถึงรถป้ายขาวตัวหนังสือสีดำธรรมดาที่นั่งได้ไม่เกิน 7 คน ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้กัน เช่นรถยนต์ 4 ประตู รถเก๋ง รถกระบะ จะใช้การคำนวณโดยดูที่ขนาดของเครื่องยนต์ว่าเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องจำนวนกี่ซีซี โดยมีอัตราการคิดคำนวณดังนี้คือ
- เครื่องยนต์ที่มีขนาด 1600 ซีซี คิด ซีซี ละ50 สตางค์ เช่น ถ้ารถยนต์มีเครื่องยนต์ 600 ซีซี จะเสียค่าภาษีอยู่ที่ 300 บาท
- เครื่องยนต์ที่มีขนาด 6011800 ซีซี คิดซีซีละ 1.50 บาท เช่น ถ้ารถยนต์มีเครื่องขนาด 1000 ซีซี จะเสียภาษีอยู่ที่ 1500 บาท
- เครื่องยนต์ที่มีขนาด 1801 ซีซี ขึ้นไปคิดซีซีละ 4 บาท เช่น ถ้ารถยนต์มีเครื่องขนาด 1900 ซีซี จะเสียภาษีอยู่ที่ 7600 บาท
อัตราการคำนวณในข้อที่ 1 นั้นใช้กับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 6 ปี เมื่อรถยนต์ได้มีอายุการใช้งานนับจากปีที่ขึ้นทะเบียนเกิน 6 ปีจะได้รับการลดภาษีลง
โดยมีอัตราการลดภาษี คือ
- รถยนต์อายุการใช้งาน 6 ปี จะได้รับการลดภาษี 10%
- รถยนต์อายุการใช้งาน 7 ปี จะได้รับการลดภาษี 20%
- รถยนต์อายุการใช้งาน 8 ปี จะได้รับการลดภาษี 30%
- รถยนต์อายุการใช้งาน 9 ปี จะได้รับการลดภาษี 40%
- รถยนต์อายุการใช้งาน 10 ปี จะได้รับการลดภาษี 50%
2. รถยนต์ที่มีป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวหนังสือสีเขียว
หรือ รถยนต์ประเภทที่มีจำนวนที่นั่งมากกว่า 7 ที่นั่ง จะคำนวณตามน้ำหนักของตัวรถยนต์ไม่ใช่จากน้ำหนักของเครื่องที่คิดเป็น ซีซี อย่างรถยนต์ประเภทแรก โดยอัตราในการคิดคำนวณคือ
- น้ำหนักของตัวรถยนต์ขนาด 500 – 750 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 450 บาท
- น้ำหนักของตัวรถยนต์ขนาด 751 1000 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 600 บาท
- น้ำหนักของตัวรถยนต์ขนาด 1001 1250 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 750 บาท
- น้ำหนักของตัวรถยนต์ขนาด 1251 1500 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 900 บาท
- น้ำหนักของตัวรถยนต์ขนาด 1501 1750 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 1050 บาท
- น้ำหนักของตัวรถยนต์ขนาด 1751 2000 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 1350 บาท
- น้ำหนักของตัวรถยนต์ขนาด 2001 – 2500 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 1650 บาท
3. รถยนต์ที่มีป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือเป็นสีน้ำเงิน
เป็นรถที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ การคิดอัตราภาษีจะคิดแตกต่างจากสองประเภทแรกคือ คิดตามน้ำหนักรถยนต์เช่นเดียวกับประเภทที่สอง แต่กำหนดอัตราต่างกัน ดังนี้
- น้ำหนักของรถยนต์ไม่เกิน 1800 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 1,300 บาท
- น้ำหนักของรถยนต์เกิน 1800 กิโลกรัม คิดค่าภาษี 1,600 บาท
ใครที่เป็นเจ้าของรถประเภทไหน ก็ลองคำนวณค่าใช้จ่ายในการเสียภาษีครั้งต่อไปกันให้ครบถ้วนเสีย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องจ่ายค่าภาษีรถยนต์จำนวนมากหรือน้อยกว่าที่คิดไว้ยังไงละ