หน้าที่หลักๆ ของน้ำมันเกียร์ คือ การช่วยลดแรงเสียดทานและการสึกหรอของระบบเกียร์ ส่วนผสมของน้ำมันเกียร์จะมีสารหล่อลื่นทำให้ลดการสั่นสะเทือนในเรือนเกียร์ ลดแรงเสียดทานที่ทำให้เสียงดังตอนเปลี่ยนเกียร์ และสารพิเศษเหล่านี้ยังสามารถช่วยชะล้างเศษของโลหะที่เกิดจากการเสียดสีภายในบริเวณหน้าฟันเกียร์ มากไปกว่านั้นสารจากน้ำมันเกียร์สามารถป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนชิ้นส่วนภายในเกียร์ ทำให้ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อไหร่ดี
การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ควรเปลี่ยนตามคู่มือรถ ผู้ผลิตจะแนะนำว่ารถของคุณควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ มีวิธีการดูแลเบื้องต้นอย่างไร แต่ถ้าจะให้แนะนำก็จะมี 2 แบบคือ น้ำมันเกียร์ออโต้ และ น้ำมันเกียร์ธรรมดา ระบบเกียร์ 2 รูปแบบจะมีระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะใช้ความนิยมที่หลายคนมักแนะนำในกระทู้ pantip ว่า 40,000 - 60,000 กิโลเมตร แต่เห็นหลายคนบอกว่าควรจะเปลี่ยน 20,000 กิโลเมตร เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ราคาไม่สูงเกินไป เมื่อเทียบกับการยกระบบเกียร์
น้ำมันเกียร์ออโต้ กับ น้ำมันเกียร์ธรรมดา แตกต่างกันอย่างไร
หลายคนสงสัยว่าทำไม น้ำมันเกียร์ ของระบบเกียร์ทั้งสองแบบไม่สามารถใช้แทนกันได้ เป็นเพราะว่าระบบเกียร์ทั้งสองรูปแบบจะแตกต่างกันตรง "ทอร์คคอนเวอร์เตอร์" ในการตัดต่อการส่งกำลังจากระบบเครื่องยนต์ไปที่ระบบเกียร์แทนชุดคลัทซ์
ซึ่งหลักการทำงานทำงานคือจะเหมือนกับมีพัดลมจำนวน 2 ตัว ตัวแรกเปิดใช้งานเอาไว้เป่าให้ตัวที่สองหมุนตาม จึงเป็นการส่งกำลังให้เวลาเข้าเกียร์เครื่องจะไม่ดับ ไม่ว่าเครื่องจะเดินเบาหรือจอดแบบเหยียบเบรกเอาไว้ ระบบแบบนี้เรียกว่าการใช้ของเหลวช่วยส่งกำลังด้วยความหนืด ระบบการทำงานของแต่ละรูปแบบแตกต่างกัน ดังนั้นน้ำมันเกียร์จึงไม่ควรใช้ทดแทนกันนั่นเอง
น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเกิดจากสาเหตุอะไร
น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ เกิดจากการที่ไม่ถ่ายเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะที่คู่มือรถแนะนำ หรือการใช้งานส่วนบุคคลที่ไม่ทะนุถนอม น้ำมันเกียร์ไม่ตรงตามรุ่นหรือไม่มีประสิทธิภาพ โดยคุณจะต้องเลือกน้ำมันเกียร์ที่ตรงกับระบบเกียร์ของคุณ เพราะถ้าคุณเลือก น้ำมันเกียร์ราคาถูก คุณอาจจะเจอกับปัญหาเหล่านี้
- เกียร์สะดุด เมื่อเข้าเกียร์ D หรือเกียร์ R จะเกิดอาการกระตุกทันที
- เมื่อเปลี่ยนเกียร์ รถของคุณจะไม่ออกตัวทันที เกิดการล่าช้าของระบบเฟืองเกียร์ หรือความหนืดของน้ำมันเกียร์
- เปลี่ยนเกียร์แล้วได้ยินเสียงดังติดๆ ขัดๆ
- รู้สึกว่าการเปลี่ยนเกียร์เร็วไปหรือช้าไป ไม่ปกติเหมือนเดิม
- มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น เพราะการทำงานของระบบเกียร์ร่วมกับเครื่องยนต์ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
ปัจจุบันน้ำมันเกียร์ จะมีหลายประเภทหลายยี่ห้อให้เลือก การเลือกน้ำมันเกียร์หรือศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับรถของคุณมากที่สุด โดยนำคู่มือรถมาอ่านรายละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันระบบเกียร์ทำงานผิดปกติ และส่งผลให้เกียร์พังในที่สุด ถ้าไม่อยากเสียเงินแสน ยกระบบเกียร์ใหม่ คุณจะต้องระวังเรื่องแบบนี้ให้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว